วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

นักประพันธ์โมทซาร์ท

          โวล์ฟกัง  อมาเดอุส  โมทซาร์ทเป็นอัจฉริยะทางโลกดนตรีอย่างแท้จริง  ที่หลายต่อหลายคนขนานนามเขาว่าเป็น  “ นักดนตรีแห่งนักดนตรี ”  แต่ชีวิตของเขานับเป็นเรื่องที่น่าเศร้าอย่างมาก   โมทซาร์ท    เป็นผู้ประพันธ์เพลงยิ่งใหญ่อีกผู้หนึ่งในยุคคลาสสิกเป็นชาวออสเตรีย    โมทซาร์ทกำเนิดในครอบครัวนักดนตรี   เมืองซาลซ์บวร์ก   พ่อของเขาเป็นผู้อำนวยการดนตรีให้กับนักบวชระดับอาร์บิชอปองค์หนึ่ง   เมื่อเขาอายุได้  3  ขวบ  โมทซาร์ทได้แสดงความสนใจในบทเรียนดนตรีของพี่สาว  ซึ่งผู้เป็นพ่อเมื่อเห็นว่าลูกชายตัวน้อย ๆ สนใจในการดนตรี  ก็เลยสอนดนตรีให้ทุกวัน โมทซาร์ท  เริ่มชีวิตเป็นนักดนตรีเมื่ออายุ  5  ขวบ  ด้วยความเป็นอัจฉริยะ  เขาเริ่มแสดงดนตรีโดยเล่นเครื่องดนตรีเปียโนโบราณที่เล่นโดยการดีดสาย  ( Harpsichord ) ได้เป็นอย่างดี  และยังสามารถแต่งเพลงสั้น ๆ ได้อีกด้วยเมื่ออายุ  6  ขวบ                               
          เมื่อโมทซาร์ท  อายุได้  7  ปี  เขาได้เดินทางไปแสดงดนตรี  ร่วมกับสมาชิกในครอบครัวของเขาหลายต่อหลายแห่งในออสเตรีย    โมซาร์สเป็นเด็กที่น่ารักมาก  ครั้งหนึ่งเขาไปแสดงดนตรีในวังของจักรพรรดิในกรุงเวียนนา  เขาบังเอิญลื่นล้ม  ก็มีวัยรุ่นสาวคนหนึ่งเข้ามาอุ้มให้เขาลุกขึ้น  เขาก็พูดว่า    “ คุณใจดีจังเลยครับ  เมื่อผมโตขึ้น ผมจะแต่งงานกับคุณ ” และ หญิงสาวคนนั้นก็คือ  มารี  อังตัวแนตต์  ซึ่งต่อมาได้เป็นราชินีของฝรั่งเศสนั้นเอง                               
          ครั้นพออายุได้  13  ปี  เขาได้เดินทางไปแสดงดนตรีทั่วประเทศอิตาลีถึง  2  ปี   เมื่ออยู่ที่กรุงโรมเขได้ไปที่โบสถ์ของพระสันตะปาปา  ( Sistine  Chapel )  และได้ฟังดนตรีที่มีชื่อเสียงบทหนึ่งซึ่งไม่เคยมีการบันทึกโน้ทเพลงเอาไว้  แต่หลังจากโมซาร์ท์ได้ฟังเพลงนี้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น  เขาก็สามารถเขียนโน้ตลงไปได้หมดจากความทรงจำของเขา  และที่โรมนี่เองที่พระสันตะปาปาได้ประสาทเครื่องราชอิสริยาภรณ์ระดับ  Gold  Spur  ซึ่งทำให้เขาได้เป็นอัศวินเมื่ออายุได้เพียง  13  ปี  เท่านั้น นอกจากนี้  โมทซาร์ทก็มีผลงานการประพันธ์เพลง  โซนาตา  คอนแชร์โต  ซิมโฟนี  เพลงวัดประเภทต่าง ๆ   โอเปราชวนหัว และ โอเปเรตตา                                 
         
ชีวิตในวัยหนุ่มของโมทซาร์ท  เมื่อเขาอายุได้  26  ปี  เขาก็แต่งงาน  ส่วนหนึ่งชีวิตของเขาจะอยู่ที่เมืองซาลซ์บวร์ก  แต่ด้วยอารมณ์  ที่เร้าร้อนมีความต้องการเพียงแต่การประพันธ์เพลง  และแสดงคนตรีตามแบบของตน  โดยไม่เอาใจใคร ๆ ทั้งสิ้น  ทำให้โมซาร์ทประสบปัญหาในการปรับตัว  ในที่สุดต้องมาดำเนินชีวิตด้วยตัวของตัวเอง  โดยไม่มีผู้ใดให้ความสนับสนุนด้านการเงิน  ซึ่งทำให้โมทซาร์ทมีชีวิตลุ่ม ๆ ดอน ๆ ตลอดมา  เหตุผลสำคัญที่ทำให้ผลงานของโมทซาร์ทในระยะหลัง ๆ ไม่ได้รับความสนใจจากประชาชนมากนักเนื่องจากแนวคิดในการประพันธ์เพลงก้าวหน้าเกินยุค  ผู้ฟังไม่สามารถเข้าใจได้  จนผู้หนึ่งกล่าวกับโมทซาร์ทว่า  ผลงานของโมทซาร์ทฟังทีแรกไม่เข้าใจเลย  โมซาร์ทจึงตอบไปว่าให้ฟังต่อไปอีก  4 – 5  ครั้ง  ก็คงจะเข้าใจและเป็นความตั้งใจของโมทซาร์ทที่พยายามสร้างสรรค์ผลงานตามความคิดของตัวเองโดยไม่เอาใจตลาดแต่ประการใด    ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะเตือนหรือแนะนำโมทซาร์ทให้แต่งเพลงเพื่อสนองความต้องการของสังคมซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับโมทซาร์ทเองด้วย  คือ  สามารถขายได้แต่โมทซาร์ทไม่เคยฟังแต่ประการใดยังคงประพันธ์เพลงตามความต้องการของตนเองตลอดมา  กล่าวได้ว่า  โมทซาร์ทเกิดผิดยุคก็ว่าได้  ถ้าโมทซาร์ทเกิดมาในยุคโรแมนติก  หรือให้หลังไป  100  ปี  บทประพันธ์ของโมทซาร์ทคงจะเป็นที่ซาบซึ้งของทุกคนทันทีที่เปิดการแสดงรอบแรก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น